เด็กหนุ่มหน้าตี๋เติบโตอย่างมีคุณภาพ สู่ซุปตาร์ตัวท็อปค่าตัวเยอะมาก

โลดแล่นบนเส้นทางบันเทิงมานานหลายสิบปี สำหรับนักแสดงชายซุปตาร์ดัง ‘อีจงซอก’ ฝากผลงานสร้างชื่อไว้มากมายหลายเรื่อง เรียกได้ว่าชีวิตในเวลานี้ลัคกี้อินเกม ลัคกี้อินเลิฟสุด ๆ หลังจากประกาศเปิดตัวคบดูใจกับนักร้อง-นักแสดงตัวท็อป ‘ไอยู’ แต่ฟีดแบคตอบรับมาก ๆ

ล่าสุด อีจงซอก ได้มาโพสต์ภาพผ่านไอจี jongsuk0206

เริ่มต้นปี 2023 ด้วยภาพหล่อ ๆ พร้อมแคปชั่นระบุว่า ‘Live by your own decisions’

ดังนี้ยังได้เปิดเผยภาพวัยเด็กที่การันตีความหล่ออร่ามีมาตั้งแต่เกิด สมกับที่เติบโตมาอย่างมีคุณภาพจริง ๆ

ขณะเดียวกันเว็บไซต์ thetealmango เผยข้อมูล อีจงซอก เป็นอีกหนึ่งนักแสดงที่รวยมาก โดยมีค่าตัวรวมอยู่ที่ราว 32 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 1,100 ล้านบาท)
เริ่มต้นเข้าวงการจากการเป็นนายแบบ ก่อนที่จะแจ้งเกิด และก็ประสบผลสำเร็จจากภาพยนตร์ Hot Young Bloods ในปี 2014 และก็ซีรีส์ Doctor Stranger , Pinnochio

ตามเก็บผลงานเด็ด อีจงซอก (Lee Jong-suk)

Doctor Stranger – อัจฉริยะหมอ 2 แผ่นดิน (2014)
ซีรีส์ 20 ตอน ตอนละประมาณ 60 นาที
รับชมได้ทาง Netflix / Viu (มีพากษ์ไทย) / iQIYI / WeTV

เปิดก๊อกด้วยแนวการแพทย์พล็อตฉลาดหลักแหลม เรื่องราวของ พัคฮุน (เล่นบทโดย อีจงซอก) เด็กวัยรุ่นผู้มีโอกาสติดสอยห้อยตามครอบครัวไปเติบโตยังแผ่นดินประเทศเกาหลีเหนือ ผู้เป็นพ่อถ่ายทอดศาสตร์การแพทย์ให้กับพัคฮุนจนกระทั่งเขาเติบโตขึ้นเป็นศัลยแพทย์ทรวงอก
เก่ง ความอัจฉริยะของพัคฮุนทำให้เขาถูกทางการเกาหลีเหนือสั่งให้ผ่าตัดหัวใจผู้คนจำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งมนุษย์ที่ถูกจับมาทดลอง เคราะห์กรรมดังกล่าวเป็นเหตุให้พัคฮุนพยายามแอบหนีกลับมายังประเทศเกาหลีใต้พร้อมทั้งหญิงสาวที่เขาหลงรักอย่าง ซงแจฮี (รับบทบาทโดย จินเซยอน) แต่ทว่าโชคร้ายที่กลางทางเธอถูกสายลับดักยิงตกน้ำกลายเป็นบุคคลหายสาบสูญ

พัคฮุนกลับมายังบ้านเกิดพร้อมกับเปิดคลินิกขนาดย่อมเพื่อเลี้ยงปากท้อง เขายังตั้งใจจริงในการตามหาซงแจฮีด้วยมั่นใจว่า เธอยังไม่เสียชีวิต จนถึงวันหนึ่งพัคฮุนได้ได้โอกาสเข้าไปทำงานที่ศูนย์การแพทย์แห่งมหาวิทยาลัยมยองอู ที่แห่งนั้นเขาได้เจอกับ ฮันซึงฮี (สวมบทบาทโดย จินเซยอน) วิสัญญีแพทย์ที่มีหน้าตาดังคนรักของเขาทุกประการ พัคฮุนเริ่มเอาตัวเข้าไปใกล้ชิดกับฮันซึงฮีเพื่อพิสูจน์ความจริง ก่อนจะต้องพบเจอกับเบื้องหลังแวดวงการแพทย์อันสกปรกโสโครก ความลับมืดดำที่เกี่ยวข้องโยงใยไปสู่การเมืองระหว่างชาติ พร้อมเกมล้างแค้นจากใครบางคนที่วนเวียนอยู่ในโรงพยาบาลแห่งนั้น

เรียกว่าเป็นซีรีส์การแพทย์ที่รายละเอียดเข้มข้น ภายใต้ฉากหลังของเรื่องที่เริ่มต้นขึ้นในปี 1994 ซึ่งเป็นตอนเวลาที่ความเกี่ยวข้องทางการทูตเหนือพื้นที่เหนือคาบสมุทรประเทศเกาหลีกำลังเคร่งเคลียด แน่นอนว่าเหตุการณ์เหล่านี้เชื่อมโยงกับเงื่อนชีวิตของตัวละคร พลิกแพลงหักมุมตลอดทั้งเรื่องชนิดต้องตั้งคำถามว่ามันสมองของคนเขียนบทจะล้ำไปไหน สิ่งที่ขาดไม่ได้เป็นฉากผ่าตัดหัวใจที่เหมือนจริง ตื่นเต้นลุ้นระทึกทุกเคส พร้อมด้วยซีนโรแมนติกที่ปรุงแต่งมาเพื่อเบรกบรรยากาศเอาจริงเอาจังของเส้นเรื่องหลัก สนุกครบรสการันตีด้วยจำนวนเรตติ้งสองหลักตั้งแต่ต้นจนกระทั่งลาจอ ยกให้เป็นอีกหนึ่งงานที่อยู่บนหิ้ง ห้ามพลาดโดยเด็ดขาด

Pinocchio – พิน็อกคิโอ รักนี้หัวใจไม่โกหก (2014)
ซีรีส์ 20 ตอน ตอนละประมาณ 60 นาที
รับชมได้ทาง Netflix / Viu (มีพากษ์ไทย) / iQIYI

ออกมาจากห้องผ่าตัดไปสู่ห้องส่งรายงานข่าวกันดูบ้าง เรื่องราวเริ่มขึ้นเมื่อครอบครัวของ กีฮามยอง (รับบทโดย อีจงซอก) พบเจอกับการสิ้นไปครั้งใหญ่ เมื่อพ่อผู้เป็นเสาหลักได้เสียชีวิตหลังเข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบเหตุในโรงงานที่เกิดเพลิงลุกไหม้ แต่ว่าโชคร้ายยังเล่นงานพวกเขาอย่างไม่รู้จบ เมื่อผู้สื่อข่าวคนดังอย่าง ซงชาอ๊ก (เล่นบทโดย จินคยอง) กลับใช้สื่อรายงานว่าพ่อของกีฮามยองเป็นต้นเหตุให้เกิดการสิ้นไป สังคมเริ่มรุมประณามอย่างหนักจนถึงบีบให้แม่ของกีฮามยองตัดสินใจพาเขาไปกระโดดหน้าผาฆ่าตัวตายเพื่อหมดปัญหา

กีฮามยองรอดจากความตายมาได้เหมือนกับปาฏิหาริย์ เขาดำรงชีวิตใหม่ในชื่อ ชเวดัลโพ กลายเป็นลูกชายคนโตของบ้านและก็ได้พบกับ ชเวอินฮา (สวมบทโดย พัคชินฮเย) หลานสาวของชายชราที่ช่วยชีวิตเขาไว้ เขาตกหลุมรักเด็กสาวคนนั้นแต่ต้องปกปิดเอาไว้เพราะเหตุว่าตนมีศักดิ์เป็นลุงไปเสียแล้ว แต่มีสิ่งหนึ่งที่ชเวดัลโพมุ่งหมายอย่างสุดหัวใจคือการเป็นนักข่าวเพื่อแก้เผ็ดซงชาอ๊กด้วยการเผยโฉม
ความจริงในอดีต ถ้าหากแต่กลับเจอข้อเท็จจริงว่าศัตรูของเขาดันกลายเป็นแม่ผู้ให้เกิดของชเวอินฮา ความรักรวมทั้งความแค้นของชเวดัลโพจะลงเอยอย่างไร ต้องไปติดตามคำตอบด้วยตาตัวเอง

เรียกว่าเป็นงานคุณภาพที่ไม่ว่าจะย้อนกลับมาดูกี่ครั้งก็ยังรู้สึกเต็มที่อยู่เป็นประจำ รายละเอียดสาระที่มุ่งเน้นเสียดสีวงการสื่ออย่างตรงไปตรงมา สำนวนที่ว่า คำกล่าวสามารถฆ่าคนได้ ปรากฏเป็นภาพชัดเจนในซีรีส์เรื่องนี้ ไฮไลต์เด็ดคือการหยิบยก โรคพิน็อกคิโอ อาการสะอึกเมื่อพูดโกหก มาเป็นส่วนหนึ่งในการเสนอเบื้องหลังของการทำงานในวงการข่าวสาร
เปิดเผยให้มองเห็นความยากลำบากของนักข่าวภาคสนาม ตลอดจนจรรยาบรรณรวมทั้งความรับผิดชอบในฐานะสื่อสารมวลชน มากับปมดราม่าชีวิตที่ทั้งยังมืดดำรวมทั้งสว่างไสวคละเคล้ากันไป สิ่งที่น่าประทับใจเป็นการแทรกสอดความหมายของคำว่า ครอบครัว ที่ไม่ได้ขึ้นอยู่กับสายเลือดแต่มาจากความสัมพันธ์

คงไม่ต้องสาธยายให้มากความถึงความดีงามของอีจงซอก ในเรื่องนี้ การันตีจากการกวาดรางวัล Best Actor ได้แทบทุกเวที ตัวละครกีฮามยองเปิดโอกาสให้เขาได้ ฉายแสงในฐานะพระเอกที่ไม่ได้มีดีเพียงรูปลักษณ์ การถ่ายทอดความรู้สึกผ่านแววตากลายเป็นโลโก้ประจำตัวของอีจงซอกไปโดยปริยาย จะดราม่าสาดอารมณ์ เศร้าโศกน้ำตาท่วม รวมถึงเคมีที่เข้ากันดีกับพัคชินฮเยในซีนกระหนุงกระหนิง เป็ดน้อยของเราเล่นถึงทุกมิติ ไม่แปลกใจว่าเพราะอะไรทุกวันนี้เขาจึงขึ้นแท่นเป็นนักแสดงสายความสามารถอย่างไร้ข้อกังขา แนะนำเป็นพิเศษสำหรับสายดราม่า เอาหัวเป็นประกันเลยว่าไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน

W: Two Worlds Apart – W รักข้ามมิติ (2016)

ซีรีส์ 16 ตอน ตอนละประมาณ 60 นาที

รับชมได้ทาง Netflix / Viu (มีพากษ์ไทย) / WeTV

เอาใจคนชอบเรื่องราวสุดมหัศจรรย์ด้วยซีรีส์โรแมนติกแฟนตาซีเหนือชั้นบอกเรื่องราวของ โอยอนจู (สวมบทบาทโดย ฮันฮโยจู) ศัลยแพทย์ทรวงอกผู้เป็นลูกสาวของนักเขียนการ์ตูนออนไลน์มีชื่อ ผลงานชิ้นยอดเยี่ยมของเขาคือ W ที่กำลังดำเนินมาจนใกล้ถึงบทสรุป ทว่าระหว่างเขียนตอนสุดท้ายพ่อของโอยอนจูได้ล่องหนไปอย่างไร้ร่องรอย เวลาผ่านไปนับเป็นเวลาหลายวันเธอก็เลยออกตามหาพ่อ
กระทั่งได้เจอกับเหตุการณ์ประหลาด เมื่อฉากในการ์ตูนเรื่องดังกล่าวปรากฏให้โอยอนจูเห็นอยู่เบื้องหน้าแล้วก็นำพาเธอไปสู่อีกโลกที่ไม่คุ้นเคย

ทันทีที่โอยอนจูถูกกลืนเข้าไปในโลกแห่งการ์ตูน เธอได้ให้ความช่วยเหลือเกื้อกูล คังชอล (สวมบทบาทโดย อีจงซอก)
พระเอกของเรื่อง W ที่กำลังบาดเจ็บสาหัส โอยอนจูเรียนรู้ว่าเธอสามารถเดินทางไปมาระหว่างสองโลกได้ตามความรู้สึกของตัวละครในการ์ตูนเรื่องนั้น ขณะเดียวกันคังชอลได้พยายามตามหานักเขียนที่หายสาบสูญไปเพื่อหนีออกมาจากโลกการ์ตูนไปดำเนินชีวิตใหม่ในฐานะมนุษย์ การได้พบกันของพวกเขานำมาซึ่งความรักเหนือจินตนาการระหว่างชายและหญิงจากต่างโลก ท่ามกลางอันตรายที่เกิดขึ้นตราบจนกระทั่งการ์ตูนจะดำเนินไปจนกระทั่งหน้าสุดท้าย

ถือเป็นหนึ่งงานที่เล่าเรื่องแนวทะลุมิติออกมาได้สนุกรวมทั้งเข้าใจง่าย ไม่ต้องกังวลว่ารายละเอียดที่พูดถึงมิติเวลาจะเป็นภาระต่อการรับดู พลิกภาพโลกการ์ตูนที่คนจำนวนไม่น้อยมีความคิดว่าสดใสให้ดาร์กขึ้นด้วยความลี้ลับ ปริศนาฆาตกรรม รวมทั้งฆาตกรไร้หน้าที่ไล่ล่าพระเอกอย่างเอาเป็นเอาตาย สารพันอันตรายที่อัดแน่นไปด้วยความลุ้นระทึกชนิดนั่งไม่ติดที่ มีลูกเล่นในตอนจบทุกอีพีทำให้เราต้องดูถัดไปแบบวางไม่ลง เลิฟไลน์ของคู่พระนางที่ดูเหมือนจะลงเอยกันได้ยาก แม้แต่ซีรีส์กลับมีแนวทางนำพาคนดูให้สัมผัสบรรยากาศโรแมนซ์แสนหวานจนกระทั่งลืมไปเลยว่าแท้จริงแล้วพวกเขามาจากคนละโลก

ภาพจำของอีจงซอกจากเรื่องนี้เป็น โคตรหล่อ โคตรเท่ โคตรอันตราย ชวนให้พวกเราระลึกถึงคาแรกเตอร์ฮีโร่ในหนังยอดมนุษย์ บุคลิกลักษณะที่ดูหลุดโลกเปลี่ยนเป็ดน้อยของเราให้กลายเป็นเป็ดนักบู๊ในชั่วพริบตาเดียว บรรดาฉากแอ็กชั่นที่ใส่มาตลอดทั้งเรื่องสนับสนุนให้ชายหนุ่มคนนี้ได้ถ่ายทอดทักษะเตะต่อยแบบเต็มสตรีม จะสู้แหลกกระแทกตับระดับไหนไม่มีขัดลูกตา บอกเลยว่าดุดันสนุกเกินกว่าที่คิด ส่วนใครยังติดใจอีจงซอกในมาดหนุ่มโรแมนติกก็ยังคงได้มองเห็น มั่นใจว่าดูแล้วหลายท่านต้องการสวมบทเป็นนางเอกขึ้นมาทันที ใครยังไม่เคยดูเรื่องนี้รีบหาเวลาไปตามเก็บกันเป็นการด่วน

Romance is a Bonus Book – ลุ้นรักฉบับโบนัส (2019)

ซีรีส์ 16 ตอน ตอนละประมาณ 60 นาที
รับชมได้ทาง Netflix

หนักหนากันมาหลายแนว ลองปลดปล่อยเส้นประสาทไปกับรอมคอมไร้พิษภัยกันดูบ้าง เรื่องราวของ คังดันอี (เล่นบทโดย อีนายอง) นักเขียนคำโฆษณามือชั้นยอดที่ต้องลาออกจากงานกะทันหันเพื่อช่วยดูแลครอบครัว แต่เมื่อถึงวาระต้องการกลับไปทำงานที่รักอีกที กลับกลายเป็นว่าไม่มีบริษัทไหนเลยที่ตอบรับเธอ
หากแม้ความสามารถจะสะดุดตาเหนือคนอื่นมากก็ตาม นั่นเป็นด้วยเหตุว่าอายุของคังดันอีที่สูงกระทั่งเกินเพดานจากการที่เธอห่างหายไปเป็นเวลายาวนานหลายปี

ดูเหมือนชะตาชีวิตจะไม่ใจร้ายเสมอ เมื่อสถานที่พิมพ์แห่งหนึ่งได้ประกาศรับสมัครพนักงานสัญญาจ้างโดยไม่กำหนดอายุและก็ประวัติการศึกษา คังดันอีจึงคว้าโอกาสไว้แม้เป็นเพียงแต่ตำแหน่งพนักงานทีมสนุนชั่วคราวที่ไร้ความยั่งยืนมั่นคง ณ ที่แห่งนั้นเธอได้เจอกับ ชาอึนโฮ (เล่นบทโดย อีจงซอก) นักเขียนและก็บรรณาธิการหนุ่มหล่อที่คังดันอีรู้จักในฐานะรุ่นน้อง ความใกล้ชิดสนิทในที่ทำงานสร้างปาฏิหาริย์รักต่างอายุให้เกิดขึ้น ความโรแมนติกท่ามกลางความวุ่นวายของงานที่รายล้อมไปด้วยตัวอักษรจะเป็นอย่างไร ลองใช้หัวใจรับดูเรื่องนี้ไปด้วยกัน

หนึ่งในงานโรแมนติกคอมเมดี้ที่ผู้คนจำนวนไม่ใช้น้อยบางทีอาจเคยพลาดไป กระแสแล้วก็เรตติ้งอาจไม่สูงนักเพราะเหตุว่ากระแสรักคนละวัยยังไม่บูมอย่างทุกวันนี้ สไตล์การเล่าเรื่องที่ดูเสมือนจะเอื่อยเฉื่อยไปเรื่อย ๆ แต่ซ่อนเร้นความอบอุ่นและก็โรแมนติกเอาไว้ทุกฉากทุกตอน ด้วยเนื้อหาที่รายล้อมไปด้วยหนังสือจึงทำให้บทสนทนาของตัวละครสวยงามเหมือนหนึ่งถอดออกมาจากนิยาย สอนให้ผู้ชมได้รู้ใจตัวเองในการทำตามสิ่งที่รัก ดราม่าพอเป็นกระษัยชี้ชวนให้เราได้หยุดพักความนึกคิดเพื่อทวนตัวเอง ภาพรวมไม่หวือหวาแต่น่าประทับใจ ใครกำลังมองหาซีรีส์ที่เนื้อหาเบาสบาย ดูแล้วบรรเทาหัวใจ อย่าลืมเก็บเรื่องนี้ไว้พิจารณา

ที่ผ่านมาคงจะได้มองเห็นหลากหลายบทบาทของอีจงซอกที่ล้วนแล้วแต่สาหัสสากรรจ์ นับว่าเป็นผลงานในระยะหลังที่เขาไม่ต้องงัดพละกำลังมาโชว์แบบเต็มแมกซ์ ในทางกลับกันอีจงซอกยังทำให้ผู้ชมได้รู้จักเขาในมุมสบายๆเสมอเหมือนเป็นน้องชายที่บรรดานูน่าต้องรอแหนหวง คาแรกเตอร์ที่ดูร่าเริงซนแต่แฝงไปด้วยความเป็นผู้ใหญ่ยามจดจ่ออยู่กับหน้าที่การงาน จิตใจที่อบอุ่นรวมทั้งรอยยิ้มอันแสนละมุนจะทำให้พวกเราตกหลุมรักเขาได้ไม่ยาก ที่สำคัญยังแจกเลิฟซีนน่ารักกระจู๋กระจี๋มาให้ไม่ยั้ง เรียกว่าดูแล้วแอบซ่อนความฟินเอาไว้ไม่ไหว งานนี้หมอนกี่ใบคงหยิบมาจิกกันจนขาดไม่มีเหลือ